งานแต่งพี่สาว แต่…ฉันกลับเป็นเจ้าสาว! - ตอนที่ 180
บทที่ 180 แอบมาเยี่ยมเขาที่ห้องผู้ป่วย
ตอนค่ำๆ ซูซีมู่ก็ตื่นขึ้นมา
เขาลืมตาขึ้นมา ไม่ได้สนใจทั้งหมอและพยาบาลที่ตรวจอาการให้อยู่แม้แต่น้อย เพียงแต่มองไปทางโจวเฉิง ก่อนจะถามออกมา “เธอไม่เป็นไรใช่ไหม”
โจวเฉิงรู้ได้ทันทีว่า “เธอ” ที่ออกมาจากปากของซูซีมู่ หมายถึงใคร พลางพยักหน้าตอบ “คุณนายไม่เป็นอะไรครับ”
ได้ยินโจวเฉิงพูดว่าโล่เฟยเอ๋อไม่เป็นอะไร สีหน้าของซูซีมู่ก็ดูอ่อนนุ่มลง ก่อนจะตอบ “อืม” เบาๆ ก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง
โจวเฉิงส่งสายตาให้หมอกับพยาบาลแวบหนึ่ง ก่อนจะค่อยๆย่องออกมาจากห้อง พลางโทรศัพท์หาโล่เฟยเอ๋อ รายงานเธอ ว่าซูซีมู่ได้สติแล้ว
แต่เดิมโจวเฉิงคิดว่า โล่เฟยเอ๋อรับสายแล้ว ก็จะมาดูซูซีมู่ทันที เพราะเขารู้ดีว่าตอนที่ซูซีมู่เข้าไปในห้องผ่าตัด โล่เฟยเอ๋อเป็นกังวลมากแค่ไหน
แต่ผลกลายเป็นว่าหมอตรวจอาการให้ซูซีมู่เรียบร้อยแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็ยังไม่มา
ตอนแรกโจวเฉิงคิดว่าโล่เฟยเอ๋อมีเรื่องติดขัดอะไร แต่จนฟ้ามืดแล้ว โล่เฟยเอ๋อก็ยังไม่ปรากฏตัว
กลายเป็นโจวเฉิงทนไม่ไหว ใช้โอกาสตอนที่ซูซีมู่กำลังหลับอยู่ ออกไปตามโล่เฟยเอ๋อ
เขากลับไม่รู้เลยว่า หลังจากที่เขาออกไปไม่นาน ที่หน้าต่างก็มีเงาคนแวบผ่าน ไม่นานประตูห้องผู้ป่วยก็ค่อยๆถูกเปิดออก ก่อนจะปรากฏร่างของโล่เฟยเอ๋อเดินเบามือเบาเท้าเข้ามาในห้องผู้ป่วย
จริงๆแล้วหลังจากที่โล่เฟยเอ๋อถอยหนีออกจากหน้าห้องผู้ป่วยของซูซีมู่ ใช้ข้ออ้างว่าจะเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปโรงแรมตรงข้ามโรงพยาบาลที่โจวเฉิงเตรียมไว้ให้เธอ
หลังจากที่ถึงห้องของโรงแรม เธออาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้า ก่อนจะยืนล่องลอยอยู่ที่หน้าต่างบานใหญ่ จ้องโรงพยาบาลที่อยู่ฝั่งตรงข้ามอย่างเงียบๆ
โจวเฉิงโทรศัพท์มารายงานเธอ ตอนที่ซูซีมู่ได้สติ จริงๆแล้ว ทันทีที่เธอได้รับข่าวก็วิ่งสุดชีวิตไปยังโรงพยาบาล แต่กลับไม่กล้าเข้าไปสู้หน้าซูซีมู่ จนกระทั่งโจวเฉิงออกไป เธอมองผ่านกระจกหน้าต่าง แน่ใจว่าซูซีมู่หลับอยู่ ถึงค่อยๆย่องเข้าไปในห้องผู้ป่วย
ภายใต้แสงสลัวๆ ซูซีมู่ลังนอนหลับตาอย่างนิ่งสงบอยู่บนเตียงผู้ป่วย
สีหน้ายังคงซีดขาว แต่ก็ดีกว่าก่อนหน้าขึ้นเยอะ คิ้วได้รูปขมวดเข้าหากันเล็กน้อย ดูนอนหลับไม่ค่อยสนิทนัก
โล่เฟยเอ๋อเห็นแล้วก็เจ็บไปทั้งหัวใจ เธออยากที่จะยื่นมือออกไปลูบหน้าของซูซีมู่ แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าเหมือนเคย ทำได้แต่ปล่อยน้ำตาให้ไหลออกมาเป็นสาย แถมยังกัดริมฝีปากตัวเองแน่น ไม่กล้าส่งเสียงร้องออกมา
ผ่านไปสิบกว่านาที โล่เฟยเอ๋อคาดว่าโจวเฉิงคงจะใกล้กลับมาแล้ว เธอยืดตัวขึ้น เตรียมที่จะออกจากห้อง
อยู่ๆก็มีเสียงฮึมดังขึ้นเบาๆ ออกมาจากลำคอของซูซีมู่ เสียงเบามากขนาดที่ว่า ถ้าไม่ใช่เพราะว่าในห้องป่วยเงียบสนิท เกรงว่าโล่เฟยเอ๋อคงจะไม่ได้ยินแน่ๆ
เธอรีบหันกลับไปมอง แต่เดิมซูซีมู่ที่มีสีหน้าซีดขาว ตอนนี้กลับเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อบนใบหน้า มือกำผ้าปูเตียงแน่น ตัวสั่นไปทั้งตัวไม่หยุด
“ซูซีมู่ นายเป็นอะไร” โล่เฟยเอ๋อรีบกดปุ่มเรียกพยาบาลบนกำแพงด้วยความร้อนใจ
วินาทีติดๆกัน คุณหมอก็เดินเข้ามาอย่างว่องไว หลังจากที่ตรวจดูอาการของซูซีมู่ หมอบอกกับโล่เฟยเอ๋อว่า ที่อาการของซูซีมู่เป็นแบบนี้ ก็เพราะยาชาหมดฤทธิ์ แผลก็เลยเจ็บขึ้นมา ถ้าฉีดยาระงับปวด จะทำให้เกิดการดื้อยา และแผลอาจจะไม่หายดี ทางที่ดีที่สุดคือต้องทน
ถึงแม้โล่เฟยเอ๋อจะห่วงซูซีมู่มากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เลือกให้ซูซีมู่ฉีดยาระงับปวด
หลังจากที่เดินออกไปส่งคุณหมอเสร็จ เธอก็นั่งเฝ้าซูซีมู่เงียบๆอยู่ข้างๆเตียง
เห็นซูซีมู่เจ็บจนสีปากซีดขาว น้ำตาที่โล่เฟยเอ๋อกั้นไว้ ก็ไหลออกมาอีกครั้ง
สุดท้ายเธอทนไม่ไหว ลุกพรวดขึ้นมาจากเก้าอี้ เตรียมที่จะออกไปเรียกหมอให้ฉีดยาระงับปวดให้ซูซีมู่
แต่ปรากฏว่า อยู่ๆข้อมือของซูซีมู่ก็มีเรี่ยวแรงมหาศาล กระชากเธอขึ้นไปบนเตียง ก่อนจะพลิกตัว ขึ้นมาอยู่ข้างบนตัวเธอ
โล่เฟยเอ๋อถูกซูซีมู่บีบจนเจ็บไปหมด ทั้งยังถูกเขาทับจนทนแทบไม่ไหว แต่กลับกัดฟันทน
เห็นท่าทางซูซีมู่ทนความเจ็บปวดจนร้องไม่ออกแบบนี้ โล่เฟยเอ๋อก็พยายามหลีกเลี่ยงไม่สัมผัสกับแผลที่หลังของเขา ค่อยๆใช้มือโอบเอวเขาอย่างระมัดระวัง ก่อนจะลูบหลังเขาเบาๆ เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวด
สัมผัสด้วยความรักใคร่จากโล่เฟยเอ๋อ ทำให้อาการสั่นของซูซีมู่ดีขึ้นกว่าเดิมตั้งเยอะ โล่เฟยเอ๋อเห็นดังนั้นก็วางใจ ยอมอยู่นิ่งๆให้เขาทับ
ความเจ็บทำให้ซูซีมู่ถึงกับเหงื่อออกท่วมตัว ไม่เพียงแต่เปียกเสื้อผ้าของเขา เสื้อผ้าของโล่เฟยเอ๋อเองก็เปียกไปด้วย
ถึงแม้โล่เฟยเอ๋อจะรู้สึกไม่สบายเป็นอย่างมาก แต่ก็ยังมีเสี้ยวหนึ่งที่อยากปล่อยให้เขาได้ทำตามสบาย
อาจเป็นเพราะความเจ็บปวดเบาบางลง ซูซีมู่ก็เริ่มสงบลง ไม่นานก็หลับไป
หลังจากที่เขาหลับไป แรงที่บีบข้อมือของโล่เฟยเอ๋ออยู่ ก็คลายลงเช่นเดียวกัน
โล่เฟยเอ๋อค่อยๆขยับร่างของซูซีมู่ออกจากตัวอย่างระมัดระวัง ก่อนจะเบาไม้เบามือย่องลงจากเตียง
แต่เดิมเธออยากที่จะช่วยซูซีมู่เปลี่ยนชุดที่ชุ่มเหงื่อออก แต่เธอกลัวจะไปทำให้เขาเจ็บ ก็เลยได้แต่ล้มเลิกความคิดนั้นไป
เธอตั้งใจคลุมผ้าห่มให้ซูซีมู่ จ้องซูซีมู่ที่กำลังหลับลึกอย่างเงียบๆ ก่อนจะเขย่งปลายเท้าเดินออกไปจากห้องผู้ป่วย
หลังจากโล่เฟยเอ๋อออกไปได้ไม่นาน ซูซีมู่ก็ตื่นขึ้นมา
เขามองห้องผู้ป่วยที่ว่างเปล่า รู้สึกแปลกๆ เหมือนอะไรบางอย่างขาดหายไป
แต่ไม่ทันให้เขาได้คิดอะไรเยอะ เพราะความสนใจของเขาทั้งหมดถูกดึงไปที่ความรู้สึกเหนอะหนะที่อยู่บนตัว
ซูซีมู่เป็นคนซีเรียสเรื่องความสะอาดมาก ทำไมเขาถึงทนความเหนียวเหนอะหนะบนตัวได้กัน เขาทนเจ็บแผล พยายามที่จะยกหัวขึ้น เอื้อมมือไปที่โต๊ะข้างๆเตียงผู้ป่วย คว้าโทรศัพท์มือถือ กดต่อสายหาโจวเฉิง
ไม่ถึงสิบนาที โจวเฉิงก็วิ่งเหงื่อชุ่มตัวเข้ามาในห้องผู้ป่วย สายตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด
เขาไม่เพียงแต่หาคุณนายไม่เจอ แถมยังปล่อยให้ซูซีมู่อยู่ในห้องผู้ป่วยคนเดียวอีก ผู้ช่วยอย่างเขาทำหน้าที่ตัวเองได้แย่มากจริงๆ
ซูซีมู่ไม่ได้ถามว่าโจวเฉิงไปไหนมา เพียงแต่ให้โจวเฉิงไปเอาเสื้อผ้ามาให้เขา
โขวเฉิงถูจมูกเบาๆ ก่อนจะน้อมรับคำสั่งเดินไปหยิบเสื้อผ้าสะอาดมาให้ซูซีมู่ พลางช่วยเขาเปลี่ยน
หลังจากเสร็จ โจวเฉิงก็ยืนอยู่ข้างเตียงผู้ป่วยอย่างนอบน้อม รายงานสถานการณ์ให้ซูซีมู่ทราบ
“ประธานซูครับ บ้านหวังเตรียมที่จะทำศึกกับเรา คาดว่าคงจะใช้สัญญาฉบับนั้นที่ท่านเซ็น มาบีบพวกเราให้ออกจากจินดู”
ริมฝีปากของซูซีมู่ยกขึ้นอย่างเยือกเย็น พูดด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “ความอดทนต่ำจริงๆเลยนะ”
ไม่เรียกว่าความอดทนต่ำจะเรียกว่าอะไร แค่เซ็นสัญญาเสร็จ ก็เตรียมที่จะลงไม้ลงมือแล้ว บ้านหวังคิดว่าประธานซูกระจอกมากหรือไง คิดๆดู ประธานซูก็เตรียมการไว้แต่แรก โจวเฉิงมองเห็นจุดจบที่น่าสังเวชของตระกูลหวังในอนาคตอันใกล้
จะไม่มีความเห็นอกเห็นใจจากโจวเฉิงอย่างแน่นอน ใครเป็นคนสั่งให้บ้านหวังลักพาตัวคุณนายไปกันล่ะ แถมยังทำให้ประธานซูบาดเจ็บอีก
“ผมได้รายงานตามที่ท่านสั่งให้คุณชายลู่ทราบเรียบร้อยแล้ว คุณชายลู่บอกว่าจะกลับมาจินดูพรุ่งนี้ครับ”
ซูซีมู่พยักหน้า ก่อนจะตอบ “อืม” จากนั้นก็พูดขึ้นว่า “พรุ่งนี้ฉันออกจากโรงพยาบาลพอดี”
ได้ยินซูซีมู่พูดว่าจะออกจากโรงพยาบาล โจวเฉิงก็ร้อนรนขึ้นมา “แต่ประธานซู อาการตอนนี้ยังออกจากโรงพยาบาลไม่ได้นะครับ!”
ซูซีมู่ไม่ได้ตอบกลับคำพูดของโจวเฉิง เพียงแต่พูดว่า “ย้ายไปวิลล่าเฟิ่งหมิงเก๋อ”
วิลล่าเฟิ่งหมิงเก๋อหรอ โจวเฉิงชะงักไป ก่อนจะถาม “คุณนายก็จะย้ายไปที่นั่นหรอครับ”
“เธอ……” ซูซีมู่เงียบไปสองสามวิ ก่อนจะพูดต่อ “ให้เธออยู่คลับส่วนตัวที่นั่นเหมือนเดิม”
ให้เธออยู่ที่คลับส่วนตัวนั่นแหละ เธอชอบบรรยากาศที่นั่น อีกทั้งเธอก็ไม่ชอบที่จะอยู่กับเขา
โจวเฉิงมองซูซีมู่เหมือนอยากที่จะพูดอะไรแต่ก็เงียบไป สุดท้ายก็พยักหน้ารับพูดคำว่า “รับทราบ” ออกมาคำหนึ่ง