พ่อจอมผยอง / คุณพ่อสายเปย์ - ตอนที่ 532
บทที่ 532 โจมตีเต็มกำลัง
กองทัพมนุษย์ได้จุดระเบิดเอปไซลอนเอริดานี แอขึ้นแล้ว
ในวินาทีที่เอปไซลอนเอริดานี แอระเบิด ยานรบของอารยธรรมลู๋ข่าที่อยู่ในชั่นบรรยากาศทั้งหมดโดนแรงระเบิดสลายไปในพริบตา
ทั่วทั้งระบบดาวปรากฏแสงไฟขนาดใหญ่ขึ้นมากลุ่มหนึ่ง เศษดาวนับไม่ถ้วนกระเซ็นซ่านไปทั่ว
บ้างโดนแรงระเบิดของเอปไซลอนเอริดานี แอกระเด็นไปกลุ่มดาวเอปไซลอนเอริดานี
บ้างโดนเอปไซลอนเอริดานี บีกับเอปไซลอนเอริดานี ซีดูดเข้าไป
ส่วนยานหลักลู๋ข่าที่อยู่นอกวงแหวนเอปไซลอนเอริดานี บี จนถึงตอนนี้ยังไม่สังเกตเห็นการคงอยู่ของยานอวกาศซี-หวั้ง
“โจมตีเต็มกำลัง ต้องจับยานหลักอีกฝ่ายให้อยู่ให้ได้!” ลู่เฉินออกคำสั่ง
ในเมื่อทำลายยานป้องกันอีกฝ่ายได้สำเร็จแล้ว ก็ต้องไม่ยอมให้โอกาสอีกฝ่ายถอยหนีออกไปได้
นี่เป็นอารยธรรมอวกาศขั้นสุดระดับสามเชียวนะ
ขอเพียงฮุบอารยธรรมเทคโนโลยีพวกมันได้ ใช้เวลาไม่กี่ปี เทคโนโลยีของมนุษย์ต้องก้าวหน้าขึ้นขีดสุดระดับสามแน่
เทคโนโลยีของสองฝ่ายอยู่ในช่วงระดับเดียวกัน ดังนั้นหากนำมาใช้ก็ไม่ต้องเสียเวลาศึกษามากมายนัก
ยานอวกาศซี-หวั้งไม่ได้ขยับเคลื่อนย้ายอะไรตามคำสั่งของลู่เฉิน
แต่ยานป้องกันนับร้อยลำเข้าสู่ช่องทางการวาร์ปพุ่งไปที่ยานหลักของอารยธรรมลู๋ข่า
วินาทีที่ยานป้องกันเข้าสู่ช่วงวาร์ป ก็เกิดการเคลื่อนไหวของช่องอวกาศเป็นอย่างมาก
การเปลี่ยนแปลงของช่องอวกาศนี่จะดึงดูดความสนใจของอารยธรรมลู๋ข่า
แต่ทั่วทั้งเอปไซลอนเอริดานี แอพึ่งระเบิด ความสนใจของอารยธรรมลู๋ข่ายังคงอยู่บนเอปไซลอนเอริดานี แอ
ไม่ผิดจากที่คาดไว้ อารยธรรมลู๋ข่าตะลึงยังไม่ได้สติกลับมาจากการระเบิดของเอปไซลอนเอริดานี แอ
ตามข้อมูลที่หยดน้ำส่งกลับมา พวกมันรู้ว่าที่เอปไซลอนเอริดานี แอมีอารยธรรมอื่นอยู่
และพวกมันก็รีบแจ้นมาในทันทีที่รู้เรื่อง
แต่อีกฝ่ายกลับระเบิดดาวดวงนี้ซะงั้น
เห็นได้ชัดว่าดาวดวงนี้ไม่ใช่ดาวแม่ของพวกมัน
ถ้าอย่างนั้น อีกฝ่ายคงเป็นอารยธรรมเร่ร่อน หรือไม่ก็เป็นลูกน้องของฝ่ายเคลียร์
หรือบางที
หยดน้ำเองก็โดนหลอก ส่งข้อมูลผิดพลาดมา
ถ้าอย่างนั้น อารยธรรมที่สามารถทำลายหยดน้ำได้ ต้องเป็นอารยธรรมระดับหก
ส่วนอารยธรรมลู๋ข่าของพวกเขากลับจะมาโจมตีอารยธรรมระดับหกเนี่ยนะ?
ไม่นานพวกเขาก็รู้สึกได้ว่าไม่ชอบมาพากล
เพราะการติดตั้งก่อนหน้านี้ รวมถึงระดับของอาวุธพวกนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นระดับของอารยธรรมระดับสาม
แต่ในตอนที่อารยธรรมลู๋ข่าวิเคราะห์ออกมาได้ว่า อารยธรรมมนุษย์น่าจะอยู่ที่เอปไซลอนเอริดานี ทันใดนั้น พวกเขาจับสัญญาณการเคลื่อนไหวของห้วงอวกาศได้ที่พิกัดหนึ่งร้อยล้านกิโลเมตรนอกเอปไซลอนเอริดานี บี
คลื่นสัญญาณพวกนั้นคือยานป้องกันนับร้อยลำที่ผ่านการวาร์ปเข้ามา
พอค้นพบ ยานป้องกันนับร้อยลำก็ถอยออกจากการวาร์ปและเปิดการโจมตีตาข่ายเลเซอร์ทันที
แต่ในตอนนี้เองเห็นยานหลักของอารยธรรมลู๋ข่าสว่างวาบพลังงานแสงขึ้น
นั่นคือเกราะพลังงานป้องกัน
อารยธรรมลู๋ข่าถนัดการใช้เทคโนโลยีเกราะพลังงานป้องกัน ตาข่ายเลเซอร์อยากทำร้ายยานบินอีกฝ่าย ก็จำเป็นต้องทลายเกราะป้องกันให้ได้
วินาทีนี้ ลู่เฉินรู้สึกได้ถึงความแตกต่างของความสามารถในด้านเทคโนโลยี ทั้งที่ตาข่ายเลเซอร์ของฝ่ายตัวเองระดับสูงกว่าอีกฝ่าย แต่กลับโดนสกัดไว้ได้หมด
เกราะพลังงานป้องกันเป็นส่วนหนึ่งของเทคนิคสนามพลังบิดเบือนแรงโน้มถ่วง ถ้าได้เทคนิคนี้มา เทคโนโลยีของมนุษย์ต้องพัฒนาแบบก้าวกระโดดแน่
“ผมค้นพบว่า เกราะพลังงานป้องกันของพวกมันเป็นแค่ระดับต้น หรืออาจจะพึ่งพัฒนาออกมาได้ไม่นาน พลังเกราะยังไม่แกร่งนัก ขอเพียงพวกเราโจมตีไม่หยุด อย่างมากห้าชั่วโมงเกราะป้องกันก็จะพังทลายลง” จู่ๆติงต้าเฉิงก็พูดขึ้น
“ห้าชั่วโมง? นานเกินไป พวกเราไม่สามารถให้เวลาพวกมันนานเกินไป ไม่งั้นยานป้องกันของเราจะพ่ายหมดทั้งกองทัพ” ลู่เฉินส่ายหัวพลางว่า
“งั้นพวกเราใช้แรงสะท้อน โจมตีให้เต็มแรง น่าจะทำลายได้ในระยะเวลาอันสั้น” ตู้เฟยเสนอ
“ชิ ประเมินพวกมันต่ำไปแล้ว โจมตีเต็มพิกัดเลย” ลู่เฉินสบถออกไป ก่อนสั่งการให้โจมตีครั้งที่สอง
ระหว่างสงครามอวกาศ การปะทะกันของสองฝ่ายเริ่มตั้งแต่อยู่ห่างกันหลายสิบล้านกิโลเมตรแล้ว
อีกอย่างด้วยระดับความเร็วในการขับเคลื่อนและอาวุธ ก็แสดงออกถึงจังหวะบางอย่างออกมาแล้วด้วย
ความเร็วของอาวุธเลเซอร์เร็วที่สุด สูญเสียพลังงานในการโจมตีระยะไกลน้อยที่สุด ดังนั้นลำแสงเลเซอร์เลยโดนเลือกออกมาใช้งานก่อน
ความเร็วของอาวุธพลังงานเป็นรองลงมา ดังนั้นอาวุธพลังงงานเลยได้ใช้เป็นอันดับสอง
รอบแรก การปะทะของอาวุธเลเซอร์ได้ผลสรุป ต่อมาก็เป็นอาวุธพลังงาน
ระหว่างสองการโจมตีนี้ไม่มีระยะห่างของเวลาที่ชัดจนนัก
ที่จริงแล้ว หลังจากระดมยิงอาวุธเลเซอร์ไปได้ราวสิบวินาที อาวุธพลังงานก็ส่งออกมาทันที
ในจังหวะที่อาวุธเลเซอร์ใกล้ปิดฉาก อาวุธพลังงานแทบจะไปถึงยานหลักอีกฝ่ายแล้ว
ก่อนนี้อารยธรรมลู๋ข่าได้ส่งยานป้องกันทั้งหมดไปที่เอปไซลอนเอริดานี แอ
ตอนนี้พวกมันเหลือแค่ยานหลักเท่านั้น
การโจมตีของยานหลักเห็นได้ชัดว่าไม่เท่ายานป้องกันเลย
แต่สิ่งที่เยี่ยมที่สุดคือเกราะพลังงานป้องกัน
ตอนนี้ระหว่างมนุษย์กับอารยธรรมลู๋ข่าเรียกได้ว่าเป็นการสู้กันดุเดือดมากระหว่างหอกกับโล่
มนุษย์ในตอนนี้เปรียบเสมือนหอกที่แหลมคม
ส่วนอารยธรรมลู๋ข่ากลับกลายเป็นโล่ป้องกันที่แข็งแกร่ง
สุดท้ายก็กลายเป็นสงครามพลังงาน
ระลอกที่สอง การปะทะกันของอาวุธพลังงานเริ่มเปิดฉากขึ้นในพริบตา
ระบบอาวุธพลังงานของฝ่ายมนุษย์ ค่อนข้างสมบูรณ์ด้านทฤษฎีพื้นฐาน
ถึงจะพึ่งเป็นรูปร่างได้ไม่กี่ปี แต่ก่อนเป็นรูปเป็นร่างก็ได้เข้าสู่การอัพเกรดทั้งเรื่องความเร็วและพลังทำลายล้างแล้ว
เห็นได้ชัดว่าอาวุธพลังงานกลายเป็นอาวุธหลักสำคัญในสงครามอวกาศของมนุษย์ไปแล้ว
ยานป้องกันแทบทั้งหมดบรรจุอาวุธสำคัญทั้งสองอย่างคืออาวุธพลังงานและอาวุธเลเซอร์ไว้
วินาทีนี้ ระเบิดพลังงานนับหมื่นลูกเล็งเป้าหมายและเริ่มยิงออกไป
แสงสีฟ้าอ่อนจำนวนนับไม่ถ้วนสว่างวาบในอวกาศ และพุ่งเข้าหาเป้าหมายอย่างรวดเร็ว
ถึงความเร็วของอาวุธพลังงานจะมีมาก แต่ก็ยังห่างชั้นกับอาวุธเลเซอร์อยู่
ดังนั้น จะใช้อาวุธพลังงานยิงออกมาเป็นตาข่ายเรียกได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลย
แต่ก็มีลักษณะพิเศษอยู่ อย่างเช่น ในตอนที่จำนวนยานบินฝ่ายตัวเองเยอะกว่าอีกฝ่ายมากนัก
เช่นในตอนนี้ ลู่เฉินมีความสามารถมากพอที่จะสร้างตาข่ายอาวุธพลังงานออกมา ขนาดอีกฝ่ายได้รับการกดดันหนักหน่วงสองชนิดนี้ ยังไม่สามารถโจมตีแรงกลับหามนุษย์ได้เลย
นี่เป็นข้อได้เปรียบอย่างหนึ่ง!
วินาทีนี้ ทั้งสองฝ่ายอยู่ห่างกันหนึ่งล้านกิโลเมตร ด้วยระยะห่างขนาดนี้ ทั้งสองฝ่ายเริ่มการปะทะกันด้วยระเบิดพลังงาน
ลู่เฉินสามารถเห็นได้จากกล้องดาวเทียมว่า ในตอนที่ยิงระเบิดพลังงานออกไป อีกฝ่ายยังยิงเครื่องสื่อสารขนาดเล็กออกมามากมายด้วย
พอคิดๆดูก็จะรู้ว่า เครื่องสื่อสารพวกนี้ต้องเป็นดาวเทียมส่งสัญญาณระยะไกลแน่
ถ้าไม่มีดาวเทียมส่งสัญญาณระยะไกลพวกนี้ ควมเป็นไปได้ที่พวกมันจะจับพิกัดยานป้องกันของมนุษย์ได้นั้นถือว่าต่ำมาก
“ดูท่า พวกมันมีทฤษฎีการรบเหมือนกับพวกเรา ในสงครามอวกาศ ความเร็วและมาตรฐานในการสืบข้อมูลถือเป็นปัจจัยสำคัญมากที่จะกำหนดชัยชนะเลยทีเดียว”
ลู่เฉินพูด
“ดูท่าอารยธรรมลู๋ข่าก็เป็นอารยธรรมที่ผ่านการรบมาโชกโชนเหมือนกัน ไม่งั้นคงไม่ครบเครื่องขนาดนี้” ตู้เฟยพยักหน้าเห็นด้วย
“แต่ต่อให้มันครบเครื่องยังไง วันนี้ต้องจัดการฝังพวกมันไว้ที่นี่แหละ”
แววตาลู่เฉินส่อแววมาดร้ายพลางว่า “สั่งการลงไป ยิงตาข่ายเลเซอร์อีกครั้ง เอาให้ทำลายดาวเทียมส่งสัญญาณระยะไกลของพวกมันสิ้นซากในทีแรกเลย”
ตอนนี้ นอกจากฝ่ายทหารมนุษย์จะระดมยิงระเบิดพลังงานออกมาแล้ว ยังบังคับอาวุธเลเซอร์ เล็งเป้าหมายยิงไปที่บรรดาดาวเทียมส่งสัญญาณระยะไกลพวกนั้นด้วย
ในเวลาเดียวกัน พวกเขาเองก็เริ่มส่งดาวเทียมใหม่ออกมาแทนที่กลุ่มที่โดนอารยธรรมลู๋ข่าทำลายไป
ในสงคราม การรักษาช่องทางได้รับข้อมูลของตัวเอง อีกทั้งยังทำลายช่องทางหาข้อมูลของอีกฝ่าย ถือเป็นเรื่องสำคัญมาก