ตอนที่ 368 ความวิตกกังวลของเด็กสาวทั้งสาม!

 

.

 

“เฮ้อออ!…รู้สึกดีขึ้นมากเลยทีเดียวหลังจากที่สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บสาหัสได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ แต่ก็น่าเสียดายพลังงานมังกรหนึ่งล้านหน่วยที่ถูกใช้ไปเช่นเดียวกัน!”

 

หวังเสียนถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอกที่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บที่รุนแรงบางส่วนของเขาได้  แต่หลังจากนั้นเขาก็ส่ายหัวเล็กน้อยพร้อมกับบ่นออกมาด้วยความเสียดายพลังงานมังกรหนึ่งล้านหน่วยที่หมดไป

 

“ถวายบังคมองค์เหนือหัว!” นาคาพิษทั้ง 9 ตัวหมอบหัวลงบนพื้นขณะที่กล่าวคำทักทายกษัตริย์ของพวกมัน

 

“อืม! เหลือเพียงแค่พวกเจ้าเท่านั้นเองรึ!” หวังเสียน มองไปที่นาคาพิษทั้ง 9 ตัวด้วยดวงตาที่เศร้าโศก

 

หลังจากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที เนื่องจากว่าในตอนนี้เขานั้นมองไม่เห็นซากศพของเหล่าสาวกแห่งวังมังกรและสัตว์อสูรทะเลเผ่าพันธุ์อื่นๆที่เสียชีวิตอยู่ในสนามรบเลยแม้แต่ซากศพเดียว

 

“เกิดอะไรขึ้น? ซากศพของมหาเสนาบดีเต่ายักษ์และเหล่าสาวกแห่งวังมังกรตัวอื่นๆอยู่ที่ไหน?” หวังเสียนถามออกมาเสียงดังด้วยความสับสน

 

“ทูลฝ่าบาท ซากศพของเหล่าสหายแห่งวังมังกรและสัตว์อสูรทั้งหมดในสนามรบนั้นได้ถูกหมอกสีเทาดูดกลืนเข้าไปภายในวังมังกรจนหมดสิ้นแล้วพะยะค่ะ!” หนึ่งในเก้าของนาคาพิษตอบหวังเสียนด้วยความเคารพ

 

“ถูกหมอกสีเทาดูดกลืนเข้าไปในวังมังกรอย่างนั้นหรือ?” หวังเสียนพูดทวนคำซ้ำออกมาด้วยความสับสน ในขณะที่เขาหันมองไปที่วังมังกร

 

“ถ้าอย่างนั้นพวกเรากลับไปที่วังมังกรกันก่อนเถอะ!” หวังเสียนพูดกับนาคาพิษทั้ง 9 ตัว

 

ในตอนนี้เขายังรู้สึกว่าร่างกายนั้นอ่อนแอเป็นอย่างมาก ถึงแม้ว่าในตอนนี้เขาจะอยู่ในระดับที่ 8 ก็ตาม แต่เพราะอาการบาดเจ็บของเขาเขาจึงต้องการที่จะกลับไปพักผ่อนและฟื้นฟูอาการบาดเจ็บในวังมังกรของเขาก่อน

 

“หือ? ยังมีสัตว์อสูรทะเลเผ่าพันธุ์อื่นๆอยู่อีกอย่างนั้นเหรอ?”

 

เมื่อหวังเสียนกลับมาที่ประตูมังกรทางทิศตะวันออก เขาก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นสิ่งมีชีวิตทั้งสองเผ่าพันธุ์กำลังพยายามจะข้ามประตูมังกรเพื่อเข้าไปยังวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขา

 

“ห๊ะ? เผ่าพันธุ์ปลาดาบและเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริส บางส่วนสามารถข้ามประตูมังกรไปได้แล้วยังงั้นเหรอ?” หวังเสียน รู้สึกประหลาดใจ

 

การที่สัตว์ทะเลจะสามารถข้ามประตูมังกรเพื่อกลายเป็นส่วนหนึ่งของสาวกแห่งวังมังกรนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ [1]

 

สัตว์ทะเลที่สามารถผ่านประตูมังกรได้นั้นจะต้องมีศักยภาพที่สูงมาก

 

เผ่าพันธุ์มังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีสายเลือดที่สูงส่ง ศักยภาพทางร่างกายของพวกมันนั้น แม้แต่เทพเจ้าระดับสูงยังหวาดกลัว ฉะนั้นเกณฑ์การเลือกสาวกที่จะเข้าสู่วังมังกรนั้นก็ยิ่งต้องเข้มงวดมาก ความสามารถพิเศษทางสายเลือด สติปัญญาและจิตตานุภาพ ไม่มีสิ่งใดที่จะสามารถขาดหายไปได้เลย

 

สิ่งนี้ไม่ใช่การพูดที่เกินจริง ผู้ที่สามารถผ่านประตูมังกรไปได้ จะมีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ติดอันดับยอดเยี่ยมที่สุดของจักรวาล

 

เมื่อหวังเสียนเห็นเผ่าพันธุ์ปลาดาบและเผ่าพันธุ์อโนมาโลคาริส สามารถข้ามผ่านประตูมังกรไปได้เกือบครึ่งหนึ่งของเผ่าพันธุ์พวกมัน เขาก็รู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

 

หลังจากที่หวังเสียนเข้ามาในวังมังกรศักดิ์สิทธิ์ของเขาแล้ว เขาก็โบกมือขึ้นเบาๆพร้อมกับส่งพลังออร่าสีเขียวของธาตุไม้ไปที่นาคาพิษทั้ง 9 ตัวเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บของพวกมัน

 

เมื่อนาคาพิษทั้ง 9 ตัวได้รับพลังงานชีวิตแห่งธาตุไม้บาดแผลบนร่างกายของพวกมันก็ถูกรักษาได้อย่างสมบูรณ์ภายในพริบตา

 

“หลังจากที่สัตว์อสูรเหล่านั้นข้ามผ่านประตูมังกรมาได้ พวกเจ้าจงอยู่คอยควบคุมดูแลพวกมันให้ดี!” เมื่อเห็นว่าเหล่านาคาพิษทั้ง 9 ตัวแข็งแรงสมบูรณ์ดีแล้ว หวังเสียนจึงสั่งงานพวกมันในทันที ก่อนที่เขาจะหันหลังแล้วเดินเข้าไปยังห้องโถงราชามังกร

 

“รับด้วยเกล้าพะยะค่ะฝ่าพระบาท!” เหล่านาคาพิษตอบรับออกมาอย่างพร้อมเพรียงกัน

 

หวังเสียนเคลื่อนตัวไปถึงที่ห้องโถงราชามังกรอย่างรวดเร็ว เขามองไปที่ต้นไม้จุดกำเนิดที่อยู่ด้านหลังบัลลังก์มังกรในทันที

 

ณ จุดนี้กิ่งก้านของต้นไม้คืนวิญญาณที่เติบโตอยู่บนต้นไม้จุดกำเนิดกำลังเปล่งแสงสีเทาเข้มออกมา บนกิ่งของมันมี ดอกไม้ขนาดเล็กสีเทาเติบโตขึ้นอยู่เป็นจำนวนมากปกคลุมไปทั่วทั้งกิ่ง

 

หวังเสียนรีบเข้าไปจ้องมองดูดอกไม้สีเทาเหล่านั้นใกล้ๆด้วยความคาดหวัง

 

….

 

[ดอกไม้คืนวิญญาณ: ระดับ 12]

 

[แต่ละกลีบของดอกไม้เป็นตัวแทนของวิญญาณ 1 ดวง สามารถคืนชีวิตให้แก่เจ้าของดวงวิญญาณได้หลังจากร่างกายของเจ้าของดวงวิญญาณได้รับการฟื้นฟูกลับมา!]

 

….

 

หวังเสียนรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาในทันทีเมื่อข้อความและคำอธิบายปรากฏขึ้นในใจของเขา

 

“สามารถคืนชีพเมื่อร่างกายได้รับการฟื้นฟูกลับคืนมา!  นี่!…สิ่งนี้สามารถคืนชีพให้กับเหล่าแม่ทัพและสาวกทั้งหมดของวังมังกรได้อย่างนั้นหรือ?” หวังเสียนพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

 

“วิเศษไปเลย! นี่มันยอดเยี่ยมมากเลยจริงๆ ข้าไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่ากิ่งไม้คืนวิญญาณที่ข้าได้รับมาจากคลังสมบัติแห่งชาติในครั้งก่อนจะสามารถชุบชีวิตคนที่ตายให้คืนกลับมาได้!”

 

“ข้าจะต้องรีบคืนชีพให้กับมหาเสนาบดีเต่ายักษ์, อ๋าวหนี่, อ๋าวเซี่ย, อ๋าวฉีเทียน, อ๋าวเยี่ยฉ๋าและเหล่าสาวกตัวอื่นๆโดยเร็วที่สุด!”

 

หวังเสียนยังคงรู้สึกผิดและสะเทือนใจกับการเสียชีวิตของเหล่าแม่ทัพและสาวกแห่งมังกรของเขาเป็นอย่างยิ่ง สาวกแห่งมังกรพวกนี้นั้นถือได้ว่าเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาที่ซื่อสัตย์มากที่สุดของเขา!

 

วิ้งงง! ซ่าาาา!

 

ในตอนนี้หวังเสียนได้ยินเหมือนเสียงของสายน้ำไหลดังขึ้นมายังคลุมเครือ เขาหันมองไปยังสระน้ำมังกรที่อยู่ทางด้านหลังในทันที

 

หลังจากนั้นเขารีบพุ่งทะยานไปมองที่สระน้ำมังกรอย่างรวดเร็ว

 

ในสระน้ำมังกรตอนนี้นั้นเต็มไปด้วยมังกรตัวเล็กๆ ขนาดเท่านิ้วมือว่ายอยู่จนเต็มสระ

 

เลือดมังกรสีแดงที่อยู่ในสระส่งกลิ่นหอมจางๆออกมา เหล่ามังกรตัวเล็กๆที่อยู่ในสระน้ำมังกรต่างว่ายวนไปมาอย่างมีความสุข

 

“มังกรตัวเล็กๆเหล่านี้คือ?..”

 

หวังเสียนจ้องมองไปยังมังกรตัวเล็กๆที่อยู่ในสระน้ำมังกรด้วยดวงตาที่เบิกกว้าง

 

สระน้ำมังกรนั้นมีความยาว 40 เมตรและลึก 30 เมตร

 

เลือดมังกรสีแดงที่อยู่ข้างในนั้นมีประมาณ 5% ของขนาดสระน้ำมังกร

 

หวังเสียนจ้องมองไปยังมังกรตัวเล็กๆเหล่านั้น เขาสังเกตเห็นว่าที่กลางลำตัวของพวกมันนั้นมีหยดเลือดสีทองอยู่ตัวละ 1 หยด

 

มังกรตัวเล็กๆเหล่านี้นั้นก็คือเหล่าสาวกแห่งวังมังกรนั้นเอง

 

“เลือดสีทองที่อยู่ในร่างกายของมังกรตัวเล็กๆ เหล่านี้คือแก่นหยดเลือดแห่งมังกรศักดิ์สิทธิ์ที่ข้าได้มอบให้กับเหล่าสาวกแห่งวังมังกรของข้านั้นเอง!”

 

ดวงตาของหวังเสียน สว่างขึ้นมาในทันที หลังจากนั้นเขาเดินกลับไปที่ต้นไม้จุดกำเนิดพร้อมกับดึงดอกไม้ทั้งหมดที่อยู่บนกิ่งของต้นไม้คืนวิญญาณออกมา

 

หลังจากนั้นจิตวิญญาณที่อยู่บนกลีบของดอกไม้ก็ถูกดูดซึมโดยมังกรตัวเล็กๆเหล่านั้นอย่างรวดเร็ว

 

วิ้งงงงงง!

 

กลีบดอกไม้แต่ละกลีบนั้นคือตัวแทนของวิญญาณแต่ละดวง

 

หลังจากนั้นมังกรตัวเล็กๆตัวหนึ่งค่อยๆปรับเปลี่ยนร่างกายของมันกลายเป็นสีเหลืองหม่นๆและเริ่มมีลักษณะของมหาเสนาบดีเต่ายักษ์ให้เห็นออกมาอย่างชัดเจน

 

มังกรตัวเล็กๆอีกตัวหนึ่งก็เปลี่ยนร่างกายของมันกลายเป็นสีฟ้าใสและเริ่มมีลักษณะภายนอกคล้ายกับหอยทะเลยักษ์ซึ่งก็คืออ๋าวหนี่นั่นเอง

 

หลังจากนั้นมังกรตัวเล็กๆ ตัวอื่นๆก็เริ่มฟื้นคืนกลับสภาพเดิมของพวกมันอย่างรวดเร็ว….

 

แต่ขนาดของพวกมันทั้งหมดนั้นก็ยังมีขนาดใหญ่ไม่เกินฝ่ามือของมนุษย์

 

….

 

[โฮสต์ต้องการบำรุงและหล่อเลี้ยงเร่งการเจริญเติบโตของสายพันธุ์มังกรซึ่งเป็นสาวกแห่งวังมังกรเหล่านี้หรือไม่?]

 

….

 

ในขณะนั้นเองเสียงของระบบก็ดังขึ้นมาในใจของหวังเสียน

 

“ใช่! หล่อเลี้ยงและเร่งการเจริญเติบโตของพวกมันทันที!” หวังเสียน รีบตอบตกลงในทันที

 

….

 

[การเติบโตและการเลี้ยงดูเผ่าพันธุ์มังกรซึ่งเป็นสาวกแห่งมังกรจะต้องใช้เวลาประมาณ 20 วัน!]

 

….

 

เมื่อหวังเสียนตอบตกลงกลับไป เสียงของระบบก็แจ้งข้อความตอบกลับมาในใจของหวังเสียนในทันที

 

หวังเสียนยิ้มออกมาด้วยความโล่งใจ ในที่สุดเหล่าสาวกทั้งหมดของเขาก็จะสามารถฟื้นคืนชีพมาได้โดยใช้เวลาเพียงแค่ 20 วันเท่านั้น

 

เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆด้วยความผ่อนคลาย หลังจากนั้นเขาก็เดินรอบๆสระน้ำและมองดูเสามังกรทั้ง 9 ต้นที่มีมังกรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 9 ตัวอยู่บนต้นเสาด้วยรอยยิ้ม

 

เขารู้สึกโชคดีเป็นอย่างมากที่ได้รับต้นไม้จุดกำเนิดและกิ่งไม้คืนวิญญาณมาเป็นสมบัติในวังมังกรของเขา หากไม่มีทั้งสองสิ่งนี้ เหล่าสาวกแห่งวังมังกรเหล่านี้จะต้องเสียชีวิตลงไปอย่างไม่มีวันหวนกลับคืนมาอย่างแน่นอน

 

“แม้ว่าการต่อสู้ในครั้งนี้จะเป็นการต่อสู้ที่โหดร้ายและสูญเสียมากที่สุดตั้งแต่ก่อตั้งวังมังกรขึ้นมา แต่ผลลัพธ์โดยรวมก็ยังสามารถยอมรับได้อยู่!”

 

หวังเสียนถอนหายใจออกมาอีกครั้งด้วยความโล่งอก เขารู้สึกว่าตัวของเขานั้นมีความโชคดีในหลายๆเรื่อง

 

เมื่อความหนักใจทั้งหมดของเขานั้นสามารถผ่อนคลายลงไปได้ ความรู้สึกเหนื่อยล้าก็เริ่มจู่โจมเขาอย่างรวดเร็ว เปลือกตาของเขาหนักอึ้งขึ้นมาในทันที

 

เขาค่อยๆเดินลากร่างกายที่เหนื่อยล้าของเขากลับไปยังบัลลังก์มังกรของเขาพร้อมกับนอนลงอย่างอ่อนเพลีย

 

เมื่อเขานอนลงบนบัลลังก์มังกรที่เหมือนกับเตียงขนาดใหญ่ หวังเสียนก็หลับสนิทไปในทันที!

 

….

 

ในขณะนี้บนเรือยอร์ชที่อยู่บนผิวน้ำ กวนชูชิง, หลานชิงเยว่และซุนหลิงซิ่ว มีท่าทางที่ตื่นตะลึงและมีสีหน้าคล้ายกับจะร้องไห้ พวกเธอต่างจ้องมองลงไปในทะเลด้วยความกระวนกระวายใจ

 

ในก่อนหน้านี้นั้นได้เกิดแรงระเบิดและคลื่นพลังอันรุนแรงจากใต้ท้องทะเล จนส่งผลให้บนผิวน้ำทะเลนั้นเกิดคลื่นขนาดใหญ่แม้กระทั่งบนท้องฟ้ายังก่อให้เกิดพายุเมฆฝนที่ตกลงมาอย่างหนัก

 

ในขณะนี้เด็กสาวทั้งสามคนไม่สนใจความปลอดภัยของพวกเธอเลยแม้แต่น้อย พวกเธอออกมายืนอยู่ที่ลานด้านนอกของเรือยอร์ชพร้อมกับจ้องมองลงไปในทะเลท่ามกลางสายฝนที่โหมกระหน่ำ

 

“ฉันได้ยินเสียงระเบิดคล้ายกับเกิดการต่อสู้มาจากใต้ทะเลทางด้านนั้น! ฉันอยากจะลงไปดูเดี๋ยวนี้!”

 

กวนชูชิง พูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ใบหน้าของเธอในตอนนี้ซีดขาวจนแทบจะไม่เห็นสีเลือด ดวงตาของเธอแดงก่ำเต็มไปด้วยความวิตกกังวล

 

“ชูชิงฉันจะลงไปกับเธอด้วย! แต่ฉันเชื่อว่าเสี่ยวเสียนจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน!”

 

ใบหน้าของหลานชิงเยว่ก็ซีดเซียวพอๆกับใบหน้าของกวนชูชิง เธอกำหมัดจนแน่น ในขณะที่พยายามพูดปลอบใจกวนชูชิงด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

 

“นายหญิงทั้งสามขอรับ! ในตอนนี้ที่ใต้ทะเลค่อนข้างที่จะอันตรายเป็นอย่างมาก ขอให้นายหญิงทั้งสามโปรดสงบใจรออยู่ที่นี่เถอะขอรับ! มันจะปลอดภัยมากกว่า กระผมเชื่อว่านายท่านจะต้องไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอนเลยขอรับ !”

 

โม่ชิงหลง ที่กำลังบังคับเรือยอร์ชต้านทานคลื่นลมขนาดใหญ่ พยายามพูดห้ามปรามและเตือนสติหญิงสาวทั้งสามคนอย่างเต็มที่!

 

……….

 

จบบท

 

EndNote: [1]  ตำนานปลาหลีฮื้อกระโดดผ่านประตูมังกร

(๑.)

ปลาหลีฮื้อ 鲤鱼 (เป็นการออกสำเนียงในภาษาแต้จิ๋ว) หรือหลี่อวิ๋ อยู่ในตระกูลปลาคราฟทที่พวกเรารู้จักกันดี

สำนวนปลาหลีฮื้อกระโดดผ่านประตูมังกร 鲤鱼跳龙门 (หลี่อวิ๋เที่ยวหลงเหมิน) เป็นคำกล่าวของที่ชาวจีนรู้จักกันดี ตำนานเรื่องนี้ เล่าขานกันมาว่า

 

(๒.)

นานมาแล้ว ปลาหลีฮื้ออยู่ทางตอนใต้ของแม่น้ำหวงเหอ (เหลือง) ได้ยินมาว่า ทัศนียภาพของประตูมังกรนั้นงดงามนัก ด้วยความใคร่อยากรู้ จึงพากันว่ายทวนน้ำจากเมิ่งจิน 孟津 ผ่านแม่น้ำลั่วเหอและอีเหอ จนมาถึงประตูมังกร (禹门口) ซึ่งสูงชันมาก ไม่อาจว่ายข้ามไปได้ ปลาหลีฮื้อส่วนใหญ่ก็ว่ายออกันอยู่บริเวณหน้าประตูมังกร ครุ่นคิดไม่ออกว่า จะข้ามประตูมังกรนี้ไปได้อย่างไร กระทั่งมีปลาหลีฮื้อสีแดงตัวใหญ่ตัวหนึ่ง กล่าวกับพรรคพวกด้วยความมุ่งมั่นว่า

 

“เราต้องมุ่งมั่นฟันฝ่าไปได้สิ อย่าได้ท้อถอย

ข้าจะเริ่มกระโดดก่อน คอยดูนะ”

 

ในขณะที่ปลาหลีฮื้อตัวอื่นไม่กล้า ปลาหลีฮื้อสีแดงตัวนี้ ก็กระโดดผ่านประตูมังกรอันสูงชันขึ้นไปได้

ในเวลาที่ปลาทั้งหลายรู้สึกหมดหวัง จะพากันว่ายน้ำกลับเมิ่งจินถิ่นฐานเดิม ก็มีเสียงดังกังวานลงมาจากประตูมังกรว่า

 

“พวกเราไม่ต้องกลัว ข้าคือปลาหลีฮื้อสีแดง ข้าสามารถกระโดดข้ามประตูมังกรได้ บัดนี้ ข้าได้กลายเป็นมังกรแล้ว พวกเราจงอย่าได้ละความพยายาม ผู้ใดที่กล้าฟันผ่าจะสามารถเป็นมังกรแบบข้าได้”

 

บรรดาปลาหลีฮื้อ เมื่อได้ยินอย่างนั้น ก็บังเกิดความฮึกเหิม พากันกระโดดหมายข้ามประตูมังกรอันสูงชัน หลายตัวกระโดดไม่พ้น หล่นลงมาหัวกระแทกหินจนเป็นแผล จนเป็นสาเหตุให้ปลาหลีฮื้อบางตัวมีปานดำที่หัว มาจนถึงทุกวันนี้

 

(๓.)

ดังนั้น ชาวจีนจึงนับถือปลาหลีฮื้อเป็นสัตว์มงคล เป็นสัญลักษณ์ของความเพียรพยายาม ที่สามารถว่ายทวนน้ำ กระโดดผ่านประตูมังกร ก็จะกลายเป็นมังกรทะยานขึ้นฟากฟ้า เป็นคติสอนใจบุตรหลานว่า หากมีความเพียรพยายามแล้ว ไม่ว่าอะไรก็สามารถเป็นไปได้

นอกจากนี้ คนจีนยังนิยมให้ปลาหลีฮื้อ (เป็นรูปภาพวาด หรือ รูปแกะสลัก) แทนคำอวยพร ขอให้ประสบความสำเร็จในชีวิต มีเหลือกินเหลือใช้ไม่ขาดมือ รวมทั้ง ยังนำมาแกะสลักบนผนัง ประดับกระเบื้องเคลือบติดบนหลังคา หรือวาดเป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังตามสถานที่สำคัญต่าง ๆ และยังมีคติความเชื่อเพื่อป้องกันอัคคีภัยสถานที่ได้อีกด้วย

 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.blockdit.com/posts/5ffea7a4a18eb70ce02d9ac3

….